เตรียมความพร้อม ให้กู้บ้านเป็นเรื่องง่ายๆ
คุณสมบัติของผู้กู้ตลอดจนเงื่อนไขบางประการของแต่ละธนาคาร
ก็มีเหมือนกัน ต่างกันเฉพาะอัตราดอกเบี้ยและหลักเกณฑ์การพิจารณาบางประการเท่านั้น
สิ่งที่เราทำได้คือเราเตรียมพร้อมกับทุกๆหลักเกณฑ์ของธนาคารที่จะพิจารณา
เพื่อให้การกู้สินเชื่อเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้ระยะเวลาในการขอสินเชื่อนานเกินไป
เรามาดูกันว่าการเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อยังไงให้ผ่าน %ในการกู้ผ่านมีเพิ่มขึ้นมากแน่นอน มาดูกันค่ะ
1.เช็ครายได้
ตรวจสอบความสามารถในการผ่อนชำระ
หลักเกณฑ์แรกสุดที่ทางธนาคารจะพิจารณาในการกู้ก็คือ รายได้ รายได้เยอะ=กู้เยอะ เราต้องประเมินรายได้ของตัวเองก่อน
แล้วก็ประเมินรายได้สัดส่วนต่อวงเงินสินเชื่อ
เป็นประตูด่านแรกเลยที่ธนาคารจะใช้ประเมินสถานะของผู้กู้ คำว่ารายได้ในที่นี้
หมายถึงความมั่นคงในรายได้ของเรา ความมั่นคงของนายจ้าง ความมั่นคงของบริษัทที่เราทำงาน
ว่ามีความสัมพันธ์กับวงเงินที่จะขอสินเชื่อหรือไม่ และอีกส่วนหนึ่งก็คือผู้กู้ร่วม
เพื่อประกอบการพิจารณารายได้ได้เพิ่มมากขึ้น ถ้าหากกู้คนเดียวไม่ผ่าน
2.เช็คภาระหนี้สิน
การรักษาประวัติการชำระหนี้
ทางธนาคารจะตรวจสอบย้อนหลังการชำระหนี้ชองเราจากบริษัทเครดิตบูโร
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จะมีประวัติการชำระหนี้ของเรา
และประวัติการขอสินเชื่อทั้งหมดของเราอยู่ในนั้น ถ้าวินัยในการชำระหนี้ดี
ไม่มีการจ่ายล่าช้า หรือค้างชำระ
การพิจารณาของธนาคารก็จะเป็นผลให้เราสามารถกู้ได้เต็ม 100% ตรวจสอบเครดิตทางการเงิน ต่อให้มีรายได้สูง แต่ถ้าภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ
ของเราก็สูงตามไปด้วย มีโอกาสสูงมากที่ธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้เรา
ยกตัวอย่างเช่น เรารายได้ต่อเดือน เดือนละ100,000
แต่ภาระหนี้สินอยู่ที่ 80,000 บาท
มันหมายความว่ารายรับสุทธิเรามีแค่ 20,000บาท ดังนั้นธนาคารอาจจะปล่อยให้
แต่ไม่ได้ปล่อยให้เยอะ
ภาระหนี้สินก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาสินเชื่อให้เรา
ควรมีการวางแผน
เราไม่ควรสร้างหนี้เกินตัว ไม่ควรสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น เราจะมีหนี้ภาระได้ไม่เกิน
40% ของรายได้ ถ้ารายได้รวมของเรา 100,000 บาท ในแต่ละเดือนเราต้องมีภาระผ่อนไม่เกิน 40,000 บาท ดังนั้นจะต้องรักษาวินัยทางการเงิน จัดการหนี้สินไม่เกิน 40% ของรายได้แต่ละเดือนก่อนที่จะยื่นกู้
3.เตรียมเอกสาร
เอกสารส่วนตัว/แสดงรายได้/หลักประกัน
ที่จะนำไปยื่นกับทางธนาคาร เตรียมหลักฐานทางการเงินและเดินบัญชีให้เรียบร้อย
ตรงนี้สำคัญมากนะคะ เพื่อเป็นการยืนยันกับธนาคาร
ว่าเรามีเงินเข้าออกเป็นประจำทุกๆเดือน เดือนละเท่านี้
ซึ่งหมายความว่าเรามีรายได้ที่มั่นคง สามาถที่จะผ่อนชำระได้ตามงวด
โดยเงินที่เข้าออกจะต้องมีความเคลื่อนไหวในการเข้าออกเป็นปกติ มีหลักฐานที่มารายได้
3.1 เอกสารส่วนบุคคล บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน/ทะเบียนสมรส
เป็นใบยืนยันตัวตนที่ธนาคารจะต้องขอเรียก
3.2 เอกสารแสดงรายได้ ใบรับรองเดือน/ งบการเงิน
พนักงานประจำใช้หนังสือรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน เจ้าของธุรกิจ ฟรีแลนซ์ สำเนาบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน/หลักฐานแสดงสถานะการเงินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเช็คเงินสด
ใบเสร็จรับเงินต่างๆ สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ /ใบประกอบวิชาชีพ
3.3 หลักประกัน ถ้าเรามีสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง
ก็สามารถที่จะยื่นเพื่อให้ธนาคารประกอบพิจารณา
4.รักษาวินัยทางการเงินให้ดี
อีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการพิจารณาของธนาคาร “เงินเก็บ” ยิ่งมีเงินเก็บมากเท่าไหร่ยิ่งดี
เพราะธนาคารจะมั่นใจว่าเราไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน
จะพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อให้เราได้ง่ายขึ้น และควรมีเงินออมมากพอในระดับหนึ่ง
หรือควรมีเงินออมอย่างน้อยประมาณ 10-15 % ของราคาบ้านหลังใหม่
เพื่อไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น ค่าโอนกรรมสิทธิ
หรือแม้แต่ค่าจดจำนองก็ตาม
ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเจ้าของบ้านจำเป็นจะต้องมีสำรองไว้